8. คณิตศาสตร์ในวิศวกรรมศาสตร์

8.2 การใช้คณิตศาสตร์ในโครงสร้างและการออกแบบระบบ

คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการออกแบบโครงสร้างและระบบต่างๆ ในสาขาวิศวกรรม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบอาคาร สะพาน ระบบไฟฟ้า หรือระบบควบคุมอัตโนมัติ การใช้คณิตศาสตร์ในการคำนวณความแข็งแรง ความมั่นคง และประสิทธิภาพของโครงสร้าง รวมไปถึงการออกแบบระบบที่ซับซ้อน เช่น ระบบทางกลและไฟฟ้า จะช่วยให้สามารถสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยได้

การคำนวณแรงและโมเมนต์ในโครงสร้าง

ในการออกแบบโครงสร้าง เช่น อาคารหรือสะพาน วิศวกรต้องคำนวณแรงที่กระทำกับโครงสร้างทั้งในแนวดิ่งและแนวนอน เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างจะมีความมั่นคงและปลอดภัย สมการที่สำคัญในการคำนวณแรงและโมเมนต์ ได้แก่:

F=0และM=0

โดยที่ผลรวมของแรง (F) และผลรวมของโมเมนต์ (M) ต้องเท่ากับศูนย์ เพื่อให้ระบบอยู่ในสมดุล ตัวอย่างเช่น ในการออกแบบเสาในอาคารที่ต้องรับน้ำหนักจากด้านบน ต้องคำนวณแรงกดที่เสาและตรวจสอบว่าเสามีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับแรงนี้ได้

ตัวอย่างการคำนวณแรงในโครงสร้าง

สมมติว่าเสาต้นหนึ่งต้องรับน้ำหนักจากหลังคา ขนาด 20,000N และเสานี้มีพื้นที่หน้าตัด 0.1m2 แรงกดที่เสานี้สามารถคำนวณได้จากความดัน P ดังนี้:

P=FA

โดยที่:

  • P คือความดันที่กระทำต่อเสา
  • F คือแรงที่กระทำต่อเสา
  • A คือพื้นที่หน้าตัดของเสา

แทนค่าลงในสมการ:

P=20,000N0.1m2=200,000N/m2

ดังนั้น ความดันที่กระทำกับเสาคือ 200,000N/m2


การใช้คณิตศาสตร์ในระบบควบคุม

ในการออกแบบระบบควบคุม เช่น ระบบควบคุมอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม หรือระบบควบคุมอุณหภูมิในอาคาร วิศวกรใช้คณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น การใช้สมการเชิงอนุพันธ์เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองของระบบต่อการเปลี่ยนแปลงของอินพุต เช่น:

dydt+ay=bu

โดยที่:

  • y คือเอาต์พุตของระบบ
  • u คืออินพุตของระบบ
  • a และ b คือค่าคงที่ที่ขึ้นอยู่กับลักษณะของระบบ

สมการนี้สามารถใช้ในการคำนวณพฤติกรรมของระบบควบคุมในสถานการณ์ต่างๆ และช่วยให้ออกแบบระบบให้ทำงานได้ตามที่ต้องการ

ตัวอย่างการออกแบบระบบควบคุมอุณหภูมิ

สมมติว่ามีระบบควบคุมอุณหภูมิในห้องที่ต้องการรักษาอุณหภูมิที่ 25C ระบบใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจวัดอุณหภูมิและปรับเครื่องปรับอากาศตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ สมการควบคุมอาจมีรูปแบบดังนี้:

dTdt+kT=kTs

โดยที่:

  • T คืออุณหภูมิในห้อง
  • Ts คืออุณหภูมิที่ตั้งไว้ (25C)
  • k คือค่าคงที่ที่ขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานของระบบปรับอากาศ

สมการนี้สามารถใช้ในการคำนวณการปรับเครื่องปรับอากาศให้ทำงานเพื่อรักษาอุณหภูมิที่ต้องการ

การใช้คณิตศาสตร์ในการออกแบบโครงสร้างและระบบควบคุมเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยให้วิศวกรสามารถออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ