บทที่ 2: การเริ่มต้นใช้งาน Unity

2.1 การสร้างโปรเจกต์ใหม่

การสร้างโปรเจกต์แรกใน Unity

เมื่อทำการติดตั้ง Unity Hub และ Unity Editor เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างโปรเจกต์แรกใน Unity ค่ะ:

  1. เปิด Unity Hub:

    • เปิดโปรแกรม Unity Hub ขึ้นมา จากนั้นไปที่แท็บ “Projects” และคลิกปุ่ม “New Project” เพื่อเริ่มสร้างโปรเจกต์ใหม่
  2. เลือกประเภทของโปรเจกต์:

    • Unity จะให้คุณเลือกประเภทของโปรเจกต์ เช่น 2D หรือ 3D หากเป็นโปรเจกต์เกมสามมิติ ให้เลือกตัวเลือก 3D แต่ถ้าต้องการสร้างเกมที่มีลักษณะแบน ๆ แบบสองมิติ ให้เลือก 2D
  3. ตั้งชื่อโปรเจกต์และเลือกตำแหน่งจัดเก็บ:

    • ตั้งชื่อโปรเจกต์ที่ต้องการในช่อง "Project Name" และเลือกตำแหน่งที่ต้องการจัดเก็บโปรเจกต์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นคลิก “Create Project” เพื่อเริ่มต้น
  4. เปิดโปรเจกต์ใน Unity Editor:

    • เมื่อโปรเจกต์ถูกสร้าง Unity Editor จะเปิดขึ้นมาพร้อมกับพื้นที่ทำงานที่เรียกว่า Scene ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราจะสร้างโลกในเกมของเรา

ความหมายของ Scene, GameObject, และ Component

การทำความเข้าใจองค์ประกอบหลักของ Unity จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจการทำงานของโปรเจกต์และการพัฒนาเกมได้ดีขึ้น ซึ่งประกอบด้วย Scene, GameObject และ Component ดังนี้ค่ะ:

  1. Scene (ซีน):

    • Scene คือพื้นที่ทำงานหลักใน Unity ซึ่งสามารถถือเป็น "เวที" ที่ใช้สำหรับการวางและจัดการวัตถุ (GameObjects) ต่าง ๆ ภายในโปรเจกต์ Scene แต่ละอันสามารถมีสิ่งต่าง ๆ เช่น ตัวละคร, แสง, กล้อง, และสิ่งกีดขวางที่เป็นส่วนหนึ่งของเกม เมื่อผู้เล่นเล่นเกม พวกเขาจะได้เห็นและโต้ตอบกับวัตถุเหล่านี้ใน Scene เดียวหรือหลาย Scene
    • ตัวอย่างเช่น ในเกมหนึ่ง ๆ Scene อาจเป็นด่านหรือเลเวลหนึ่งในเกม เช่น ห้อง, ป่า, หรือเมือง
  2. GameObject (เกมออบเจกต์):

    • GameObject คือวัตถุที่มีอยู่ใน Scene ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร, อาคาร, พื้นที่, หรือแม้กระทั่งกล้องและแสง ทุกอย่างที่ปรากฏในเกมคือ GameObject
    • GameObject เองจะเป็นเพียงวัตถุเปล่า ๆ แต่สามารถเพิ่มเติมคุณสมบัติต่าง ๆ ให้กับมันได้ผ่านการเพิ่ม Component ซึ่งจะทำให้ GameObject มีพฤติกรรมหรือคุณสมบัติพิเศษ เช่น การเคลื่อนไหว หรือการชนกับวัตถุอื่น ๆ
  3. Component (คอมโพเนนต์):

    • Component คือส่วนที่ใช้ในการกำหนดลักษณะและพฤติกรรมของ GameObject แต่ละ Component จะให้ความสามารถพิเศษบางอย่างแก่ GameObject ตัวอย่างเช่น:
      • Transform Component: กำหนดตำแหน่ง, ขนาด และการหมุนของ GameObject
      • Mesh Renderer Component: ทำให้ GameObject สามารถมองเห็นได้ใน Scene (เช่น การแสดงผลโมเดลสามมิติ)
      • Collider Component: ทำให้ GameObject สามารถตรวจจับการชนกับวัตถุอื่น ๆ
    • นักเรียนสามารถเพิ่ม Component ให้กับ GameObject ได้หลายตัวเพื่อให้วัตถุมีพฤติกรรมที่ซับซ้อนมากขึ้น

หมายเหตุ: ในการทำงานใน Unity สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า Scene คือที่ที่เราจัดการวัตถุทั้งหมด และ GameObject แต่ละตัวใน Scene จะต้องมี Component เพื่อให้มันมีคุณสมบัติหรือการทำงานที่แตกต่างกัน