1.2 ความแตกต่างระหว่างการคิดเชิงสร้างสรรค์และการคิดแบบปกติ

การคิดเชิงสร้างสรรค์และการคิดแบบปกติมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:

  • การคิดแบบปกติ: การคิดแบบปกติเป็นกระบวนการคิดที่อิงอยู่กับความรู้และประสบการณ์ที่นักเรียนมีอยู่แล้ว เป็นการคิดที่เป็นขั้นเป็นตอน มุ่งเน้นการหาคำตอบที่ถูกต้องตามหลักเหตุผลและหลักวิชาการ ซึ่งมักจะเป็นการแก้ปัญหาที่มีคำตอบชัดเจนอยู่แล้ว เช่น การทำโจทย์คณิตศาสตร์ หรือการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ที่มีขั้นตอนและคำตอบชัดเจน

  • การคิดเชิงสร้างสรรค์: การคิดเชิงสร้างสรรค์เป็นกระบวนการคิดที่มุ่งเน้นการสร้างแนวคิดใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับวิธีการที่เคยมีมาก่อน นักเรียนสามารถมองเห็นปัญหาในแง่มุมที่แตกต่างหรือคิดค้นสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำ การคิดเชิงสร้างสรรค์ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของคำตอบที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียว แต่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้สร้างหลายทางเลือกในการแก้ปัญหา และสนับสนุนให้ใช้จินตนาการในการพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลายและแปลกใหม่

ตัวอย่างของเรื่องเดียวกัน แต่คิดเห็นในแบบปกติ กับ คิดเชิงสร้างสรรค์

โจทย์: นักเรียนได้รับมอบหมายให้สร้างที่ใส่ปากกาจากกล่องกระดาษเหลือใช้

การคิดแบบปกติ

นักเรียนที่ใช้การคิดแบบปกติจะสร้างที่ใส่ปากกาโดยยึดตามรูปแบบที่คุ้นเคย เช่น การตัดกล่องกระดาษที่มีความสูงประมาณครึ่งหนึ่งของกล่องและติดกาวฐานเพื่อให้ที่ใส่ปากกาสามารถตั้งได้มั่นคง จากนั้นนักเรียนอาจตกแต่งกล่องด้วยกระดาษสีหรือสติกเกอร์ เพื่อให้ดูสวยงามและสามารถใช้ใส่ปากกาได้ตามหน้าที่ที่กำหนดไว้

  • ลักษณะของการคิด: นักเรียนทำตามขั้นตอนที่เคยเรียนรู้หรือเคยเห็นมา โดยยึดตามรูปแบบเดิมที่มีอยู่ ไม่ได้คิดถึงการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงรูปแบบที่มีอยู่แล้ว

การคิดเชิงสร้างสรรค์

นักเรียนที่ใช้การคิดเชิงสร้างสรรค์จะมองโจทย์นี้ในมุมที่ต่างออกไป แทนที่จะทำเพียงแค่ที่ใส่ปากกาธรรมดา นักเรียนอาจคิดค้นไอเดียใหม่ ๆ เช่น สร้างที่ใส่ปากกาที่มีรูปร่างเป็นต้นไม้ โดยใช้หลอดหรือกล่องกระดาษในการสร้างกิ่งก้านที่สามารถใส่ปากกาได้หลายระดับ หรือสร้างที่ใส่ปากกาที่สามารถหมุนได้รอบทิศทางเพื่อให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ นักเรียนอาจนำฟังก์ชันอื่น ๆ เข้ามาเสริม เช่น เพิ่มช่องใส่กระดาษโน้ต หรือเพิ่มปุ่มหมุนที่สามารถปรับระดับที่ใส่ปากกาได้

  • ลักษณะของการคิด: นักเรียนใช้จินตนาการในการออกแบบที่ใส่ปากกาให้มีรูปแบบที่ไม่ซ้ำกับของเดิม โดยคำนึงถึงความสวยงาม ความสะดวกในการใช้งาน และการเพิ่มฟังก์ชันอื่น ๆ เข้ามา ทำให้ผลงานมีความพิเศษและแตกต่างจากที่ใส่ปากกาทั่วไป

การคิดเชิงสร้างสรรค์จึงช่วยให้นักเรียนสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของการคิดแบบปกติ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นไปได้มากมาย