3. หลักการพื้นฐานในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Fundamental Principles for Effective Communication)

3.2 การฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening)

การฟังอย่างตั้งใจ เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพและเกิดความเข้าใจที่แท้จริง การฟังอย่างตั้งใจไม่ได้เป็นเพียงแค่การรับฟังคำพูดของผู้พูด แต่ยังรวมถึงการใส่ใจในสารที่ส่งมา ทั้งในด้านอารมณ์ ความรู้สึก และความตั้งใจของผู้พูด การฟังแบบนี้ช่วยให้ผู้ฟังสามารถตอบสนองต่อผู้พูดได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง

การฟังอย่างตั้งใจต้องอาศัยความตั้งใจในการรับฟังโดยไม่มีการขัดจังหวะหรือคิดตอบกลับในทันที นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาภาษากายและโทนเสียงของผู้พูดเพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมาโดยตรง การสื่อสารแบบนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง

องค์ประกอบสำคัญของการฟังอย่างตั้งใจ:

  1. การให้ความสนใจอย่างเต็มที่ (Paying Full Attention):
    การฟังอย่างตั้งใจต้องการให้ผู้ฟังมีสมาธิและไม่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้าง เช่น การมองไปที่ผู้พูด การทำตามท่าทางและการแสดงออกทางสีหน้าของเขาเพื่อแสดงความสนใจและตั้งใจฟัง

  2. การไม่ขัดจังหวะ (Avoiding Interruptions):
    การฟังอย่างตั้งใจควรหลีกเลี่ยงการขัดจังหวะผู้พูด ให้เวลาผู้พูดพูดจนจบก่อนที่ผู้ฟังจะตอบสนอง สิ่งนี้ช่วยให้ผู้พูดรู้สึกว่าคำพูดของเขามีความหมายและได้รับการเคารพ

  3. การพยายามทำความเข้าใจ (Trying to Understand):
    การฟังอย่างตั้งใจเน้นที่การทำความเข้าใจเนื้อหา ความรู้สึก และเจตนาของผู้พูด ไม่เพียงแค่ฟังคำพูด แต่ต้องพิจารณาว่าผู้พูดพยายามจะสื่ออะไรจริง ๆ สิ่งนี้ทำได้โดยการวิเคราะห์ภาษากายและโทนเสียงของผู้พูดประกอบ

  4. การสะท้อนกลับ (Reflecting Back):
    หลังจากฟังเสร็จแล้ว การตอบสนองโดยการสะท้อนความเข้าใจกลับไปยังผู้พูด เช่น การสรุปหรือทบทวนสิ่งที่ได้ยิน การสะท้อนกลับนี้ช่วยยืนยันว่าผู้ฟังเข้าใจถูกต้อง และทำให้ผู้พูดรู้สึกว่าได้รับการฟังอย่างจริงจัง

ประโยชน์ของการฟังอย่างตั้งใจ:

  • สร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและลดความขัดแย้ง
  • เพิ่มความไว้วางใจและสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรง
  • ช่วยในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกันที่ดี