หน่วยที่ 5: แสงและการมองเห็น (Light and Optics)
5.2 การคำนวณมุมการสะท้อนและหักเหของแสง
การคำนวณมุมการสะท้อนและการหักเหของแสงมีความสำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมของแสงเมื่อมันตกกระทบกับพื้นผิวหรือเปลี่ยนตัวกลาง มุมการสะท้อนสามารถคำนวณได้จากกฎการสะท้อน ในขณะที่มุมการหักเหต้องใช้กฎของสเนลล์ในการคำนวณ
1. การคำนวณมุมการสะท้อนของแสง
มุมการสะท้อนของแสงสามารถคำนวณได้จากกฎการสะท้อน (Law of Reflection) ซึ่งระบุว่า:
โดยที่:
คือ มุมตกกระทบ (Angle of Incidence) คือ มุมสะท้อน (Angle of Reflection)
ตัวอย่างเช่น หากมุมตกกระทบของแสงที่ตกกระทบพื้นผิวกระจกเท่ากับ 30 องศา มุมสะท้อนจะเท่ากับ 30 องศาเช่นกัน นั่นคือแสงสะท้อนออกไปในทิศทางตรงข้ามแต่ยังคงรักษามุมเดิมไว้
2. การคำนวณมุมการหักเหของแสง
มุมการหักเหของแสงคำนวณได้จากกฎของสเนลล์ (Snell's Law) ซึ่งระบุว่า:
โดยที่:
และ คือ ดัชนีหักเหของตัวกลางที่ 1 และตัวกลางที่ 2 ตามลำดับ คือ มุมตกกระทบในตัวกลางที่ 1 คือ มุมหักเหในตัวกลางที่ 2
กฎของสเนลล์ใช้ในการคำนวณมุมการหักเหของแสงเมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่งที่มีดัชนีหักเหแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เมื่อแสงเคลื่อนที่จากอากาศ (ดัชนีหักเห
ตัวอย่างการคำนวณ:
สมมติว่าแสงตกกระทบจากอากาศเข้าสู่น้ำที่มุมตกกระทบ
แก้สมการเพื่อหา
ดังนั้น มุมหักเห
ดังนั้น เมื่อแสงตกกระทบจากอากาศที่มุม 45 องศา เข้าสู่น้ำ มุมหักเหของแสงในน้ำจะเท่ากับประมาณ 32 องศา
การประยุกต์ใช้การคำนวณมุมการสะท้อนและหักเห
การคำนวณมุมสะท้อนและมุมหักเหของแสงมีการประยุกต์ใช้ในหลายด้าน เช่น การออกแบบเลนส์ในกล้องถ่ายรูป การวิเคราะห์มุมของแสงที่สะท้อนจากพื้นผิวเพื่อสร้างภาพที่คมชัด หรือการวางแผนการจัดแสงในโรงละครหรือสตูดิโอถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการออกแบบระบบแสงในงานด้านการแพทย์ เช่น การใช้เลนส์ในกล้องจุลทรรศน์และเครื่องมือทางการแพทย์ต่าง ๆ
สรุป:
- มุมสะท้อนสามารถคำนวณได้จากกฎการสะท้อน โดยมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน
- มุมหักเหสามารถคำนวณได้จากกฎของสเนลล์ ซึ่งใช้ดัชนีหักเหของตัวกลางทั้งสองและมุมตกกระทบ
- การคำนวณมุมสะท้อนและหักเหมีการประยุกต์ใช้ในเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพและการแพทย์