บทที่ 8: การสร้างโปรแกรมขนาดเล็ก

8.2 การออกแบบโปรแกรมที่แก้ปัญหาจริง ๆ ได้

การออกแบบโปรแกรมที่สามารถแก้ปัญหาจริง ๆ ได้เป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยโปรแกรมที่ดีต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการหรือแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการข้อมูล การประมวลผล การคำนวณ หรือการนำเสนอข้อมูลให้กับผู้ใช้ ในบทเรียนนี้เราจะดูวิธีการออกแบบโปรแกรมที่สามารถนำไปแก้ปัญหาจริง ๆ ได้ พร้อมตัวอย่างการนำไปประยุกต์ใช้

1. การระบุปัญหา

ขั้นตอนแรกในการออกแบบโปรแกรมคือการเข้าใจปัญหาที่ต้องการแก้ไข คุณต้องระบุปัญหาอย่างชัดเจน เช่น:

  • ผู้ใช้งานต้องการระบบการจัดการข้อมูลพนักงาน
  • ผู้ใช้ต้องการเครื่องมือในการคำนวณค่าใช้จ่าย
  • ผู้ใช้ต้องการเครื่องมือในการติดตามสุขภาพ

ตัวอย่างปัญหา

ปัญหาที่เราจะมาดูในตัวอย่างนี้คือ การจัดการรายจ่ายรายวัน ผู้ใช้ต้องการระบบที่จะช่วยบันทึกและคำนวณรายจ่ายในแต่ละวัน และต้องการดูรายจ่ายรวมในแต่ละเดือน

2. การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างโปรแกรม

หลังจากระบุปัญหาแล้ว เราต้องวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างโปรแกรมให้ชัดเจน โดยแยกแยะฟังก์ชันต่าง ๆ ที่โปรแกรมควรมี เช่น การบันทึกรายจ่าย, การคำนวณยอดรวม, การแสดงผลรายงาน

การออกแบบโครงสร้างโปรแกรมสำหรับการจัดการรายจ่าย

  • ฟังก์ชันการบันทึกรายจ่าย: ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลการใช้จ่ายในแต่ละวันได้
  • ฟังก์ชันการคำนวณรายจ่ายรวม: โปรแกรมสามารถคำนวณยอดรายจ่ายทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ฟังก์ชันการแสดงผลรายงาน: แสดงผลรายงานรายจ่ายในแต่ละเดือน
3. การเลือกเครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสม

การเลือกเครื่องมือและเทคนิคในการพัฒนาโปรแกรมเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เช่น:

  • ใช้ ลิสต์ (Lists) หรือ ดิกชันนารี (Dictionaries) ในการจัดเก็บข้อมูล
  • ใช้ ฟังก์ชัน ในการจัดการงานย่อย เช่น การคำนวณ การบันทึกข้อมูล
  • ใช้ ลูป และ เงื่อนไข ในการประมวลผลข้อมูล
4. การพัฒนาโปรแกรม

เมื่อวางแผนและออกแบบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเขียนโปรแกรมโดยนำความรู้ที่ได้เรียนรู้มาใช้สร้างโปรแกรมที่แก้ปัญหาได้จริง

ตัวอย่างโปรแกรมจัดการรายจ่ายรายวัน

expenses = []

# ฟังก์ชันสำหรับบันทึกรายจ่าย
def add_expense(date, amount, category):
    expenses.append({"date": date, "amount": amount, "category": category})

# ฟังก์ชันสำหรับคำนวณรายจ่ายรวม
def calculate_total():
    total = 0
    for expense in expenses:
        total += expense["amount"]
    return total

# ฟังก์ชันสำหรับแสดงผลรายงาน
def show_report():
    for expense in expenses:
        print(f"Date: {expense['date']}, Amount: {expense['amount']}, Category: {expense['category']}")
    print(f"Total expenses: {calculate_total()}")

# ตัวอย่างการใช้งานโปรแกรม
add_expense("2024-08-15", 50, "Food")
add_expense("2024-08-16", 100, "Transportation")

show_report()
อธิบาย: โปรแกรมนี้มีฟังก์ชันสำหรับบันทึกรายจ่าย, คำนวณยอดรวม, และแสดงรายงานของรายจ่าย ฟังก์ชัน add_expense() ใช้สำหรับเพิ่มข้อมูลรายจ่ายลงในลิสต์ expenses ฟังก์ชัน calculate_total() ใช้คำนวณยอดรายจ่ายทั้งหมด และฟังก์ชัน show_report() ใช้แสดงข้อมูลรายจ่ายพร้อมยอดรวม

5. การทดสอบและปรับปรุงโปรแกรม

หลังจากพัฒนาโปรแกรมเสร็จแล้ว ควรทดสอบโปรแกรมเพื่อให้แน่ใจว่ามันสามารถแก้ปัญหาได้จริง และทำงานได้อย่างถูกต้อง การทดสอบควรครอบคลุมการใช้งานทุกฟังก์ชัน และตรวจสอบการประมวลผลข้อมูลที่ถูกต้อง

การทดสอบโปรแกรมจัดการรายจ่าย

  • ทดสอบการบันทึกข้อมูลรายจ่าย
  • ทดสอบการคำนวณรายจ่ายรวม
  • ทดสอบการแสดงผลรายงาน
6. การปรับปรุงเพื่อเพิ่มฟีเจอร์

เมื่อโปรแกรมพื้นฐานทำงานได้แล้ว เราสามารถปรับปรุงโปรแกรมเพิ่มเติมได้ เช่น:

  • เพิ่มการบันทึกรายจ่ายแบบอัตโนมัติจากไฟล์
  • เพิ่มฟังก์ชันการคำนวณรายจ่ายแยกตามหมวดหมู่
  • เพิ่มระบบแจ้งเตือนเมื่อรายจ่ายเกินงบประมาณที่กำหนด
สรุป

การออกแบบโปรแกรมที่สามารถแก้ปัญหาจริง ๆ ได้เริ่มต้นจากการระบุปัญหา การวิเคราะห์และออกแบบโครงสร้างโปรแกรม การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม และการพัฒนาโปรแกรมอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อพัฒนาโปรแกรมเสร็จแล้ว การทดสอบและปรับปรุงโปรแกรมเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้โปรแกรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของผู้ใช้