บทที่ 4: การเพิ่มฟิสิกส์ในเกม (Physics)


4.1 ความสำคัญของฟิสิกส์ในเกม

ฟิสิกส์ (Physics) เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกมดูสมจริงมากขึ้น โดยฟิสิกส์ในเกมจะควบคุมการเคลื่อนไหวของวัตถุ เช่น การตกของวัตถุ, การชนกัน (Collisions), แรงโน้มถ่วง (Gravity) และแรงอื่น ๆ ที่ทำให้การเล่นเกมมีความสมจริงและสนุกยิ่งขึ้น

4.2 การตั้งค่าแรงโน้มถ่วง (Gravity)

ใน Roblox Studio ฟิสิกส์ถูกตั้งค่าให้มีแรงโน้มถ่วงที่ดึงวัตถุทุกอย่างลงสู่พื้นดิน เช่นเดียวกับในโลกจริง แต่คุณสามารถปรับค่าของแรงโน้มถ่วงให้เหมาะสมกับเกมของคุณได้

ขั้นตอนการปรับแรงโน้มถ่วง:

  1. เปิดโปรเจกต์ของคุณใน Roblox Studio
  2. คลิกที่ Explorer (ตัวสำรวจ) ทางด้านขวาของหน้าจอ
  3. เลือก Workspace (พื้นที่ทำงาน)
  4. มองหาช่อง Gravity ในแถบ Properties (คุณสมบัติ) แล้วใส่ค่าที่ต้องการ (ค่าเริ่มต้นคือ 196.2 ซึ่งเป็นค่าแรงโน้มถ่วงใน Roblox)

ตัวอย่าง: ถ้าคุณต้องการสร้างเกมในโลกที่มีแรงโน้มถ่วงต่ำ เช่น บนดวงจันทร์ คุณสามารถปรับค่า Gravity ให้เป็นค่าที่น้อยลง เพื่อให้วัตถุในเกมเคลื่อนไหวช้าลงหรือกระโดดสูงขึ้น

4.3 การชนกันของวัตถุ (Collisions)

การชนกันระหว่างวัตถุในเกมเป็นสิ่งที่ทำให้เกมมีความสมจริงมากขึ้น เช่น เมื่อผู้เล่นเดินชนกับกำแพง หรือเมื่อวัตถุตกลงบนพื้น การตั้งค่าการชนกันสามารถปรับได้ตามต้องการ

ขั้นตอนการตั้งค่าการชนกัน:

  1. คลิกที่วัตถุที่ต้องการตั้งค่าการชนกัน
  2. ไปที่แถบ Properties แล้วหาช่องที่ชื่อว่า CanCollide (สามารถชนกัน)
  3. หากเลือกช่องนี้ วัตถุจะชนกันกับวัตถุอื่น ๆ ในเกม หากไม่เลือก วัตถุจะทะลุผ่านกันได้

ตัวอย่าง: ถ้าคุณต้องการให้ผู้เล่นสามารถเดินผ่านกำแพง คุณสามารถยกเลิกการเลือกช่อง CanCollide สำหรับกำแพงนั้นได้

4.4 การเพิ่มฟิสิกส์ให้กับวัตถุ

เพื่อให้วัตถุในเกมเคลื่อนที่และตอบสนองต่อแรงต่าง ๆ เช่น การตกจากที่สูงหรือการถูกผลัก คุณสามารถเพิ่มคุณสมบัติทางฟิสิกส์ให้กับวัตถุได้

ขั้นตอนการเพิ่มฟิสิกส์ให้วัตถุ:

  1. คลิกที่วัตถุที่ต้องการเพิ่มฟิสิกส์
  2. ไปที่แถบ Properties แล้วหาช่อง Anchored (ยึดติด) และ Massless (ไม่มีมวล)
    • Anchored: หากเปิดใช้งาน วัตถุจะไม่เคลื่อนที่หรือถูกแรงโน้มถ่วงดึงลงมา
    • Massless: หากเปิดใช้งาน วัตถุจะไม่มีมวลและไม่ตอบสนองต่อแรงฟิสิกส์

ตัวอย่าง: ถ้าคุณต้องการสร้างเกมที่ผู้เล่นสามารถผลักกล่องได้ คุณควรยกเลิกการเลือก Anchored ของกล่องนั้น เพื่อให้กล่องสามารถเคลื่อนที่ได้ตามแรงผลัก

4.5 การเพิ่มแรง (Forces) ให้กับวัตถุ

นอกจากการใช้แรงโน้มถ่วงและการชนกันแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มแรงพิเศษ เช่น แรงผลัก (Push Force) หรือแรงดูด (Pull Force) เพื่อทำให้วัตถุในเกมมีการเคลื่อนไหวที่เฉพาะเจาะจงได้

ขั้นตอนการเพิ่มแรงให้วัตถุ:

  1. คลิกขวาที่วัตถุที่ต้องการเพิ่มแรง
  2. เลือก Insert Object (แทรกวัตถุ) แล้วเลือก BodyForce (แรงทางกายภาพ)
  3. ตั้งค่าแรงในแถบ Properties เช่น แรงในทิศทาง X, Y, หรือ Z เพื่อกำหนดทิศทางและขนาดของแรง

ตัวอย่าง: คุณสามารถเพิ่มแรงผลักเพื่อให้ลูกบอลกลิ้งไปข้างหน้าในเกมได้โดยใช้ BodyForce และตั้งค่าแรงในทิศทางที่ต้องการ


Free Joomla templates by Ltheme