บทที่ 5: การสร้างเกมที่มีหลายระดับ (Multilevel Games)
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
- นักเรียนจะได้เรียนรู้วิธีการสร้างเกมที่มีหลายระดับ (Levels) โดยการใช้ฉาก (Backdrops) และเงื่อนไข (Conditionals) เพื่อเปลี่ยนระดับของเกม
- นักเรียนจะสามารถเพิ่มความท้าทายในเกม โดยการออกแบบระดับที่ยากขึ้นตามความสามารถของผู้เล่น
1. การวางแผนการสร้างเกมที่มีหลายระดับ
ก่อนที่นักเรียนจะเริ่มสร้างเกมหลายระดับ ควรมีการวางแผนล่วงหน้าเกี่ยวกับจำนวนระดับ (Levels) ของเกม และแต่ละระดับควรมีความแตกต่างอย่างไร เช่น ความยากที่เพิ่มขึ้น หรือการเปลี่ยนฉากและตัวละคร นักเรียนควรกำหนดเงื่อนไขในการผ่านแต่ละระดับ เช่น ผู้เล่นต้องสะสมคะแนนครบ 10 คะแนนจึงจะผ่านไปยังระดับถัดไปได้
2. การใช้ฉาก (Backdrops) ในการเปลี่ยนระดับ
ในเกมที่มีหลายระดับ ฉาก (Backdrops) สามารถใช้เพื่อแสดงสถานะของระดับที่แตกต่างกัน นักเรียนสามารถเปลี่ยนฉากเมื่อผู้เล่นผ่านระดับได้ โดยใช้บล็อก "เปลี่ยนฉากเป็น [ชื่อฉาก]" เพื่อเปลี่ยนฉากที่แสดงผลในแต่ละระดับ
- เพิ่มฉากที่แตกต่างกันในแต่ละระดับ เช่น ฉากป่า, ฉากในเมือง, และฉากภูเขา
- ใช้บล็อก "เปลี่ยนฉากเป็น [ชื่อฉาก]" เมื่อผู้เล่นผ่านเงื่อนไขในแต่ละระดับ
ตัวอย่าง:
สร้างเกมที่มี 3 ระดับ โดยเปลี่ยนฉากเมื่อผู้เล่นสะสมคะแนนครบ 10, 20, และ 30 คะแนน
3. การใช้เงื่อนไขเพื่อเปลี่ยนระดับ
นักเรียนสามารถใช้บล็อกเงื่อนไข (Conditionals) เพื่อกำหนดการเปลี่ยนระดับของเกม เช่น เมื่อผู้เล่นทำภารกิจสำเร็จ หรือสะสมคะแนนครบตามที่กำหนด เงื่อนไขเหล่านี้สามารถตรวจสอบโดยใช้บล็อก "ถ้า...แล้ว" (If...Then) เพื่อให้โปรแกรมเปลี่ยนระดับตามสถานการณ์
- ใช้บล็อก "ถ้าคะแนนมากกว่า 10 แล้วเปลี่ยนฉากเป็น [ชื่อฉาก]" เพื่อเปลี่ยนระดับ
- สร้างตัวแปรเพื่อเก็บค่าคะแนนหรือจำนวนภารกิจที่ผู้เล่นทำสำเร็จ เพื่อใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไข
ตัวอย่าง:
สร้างเกมที่เปลี่ยนระดับเมื่อคะแนนของผู้เล่นมากกว่า 10, และทำให้ตัวละครเผชิญกับความท้าทายใหม่ในแต่ละระดับ
4. การเพิ่มความท้าทายในระดับต่างๆ
ในแต่ละระดับของเกม ควรเพิ่มความท้าทายให้กับผู้เล่น เช่น การเพิ่มจำนวนอุปสรรค การทำให้ตัวละครเคลื่อนไหวเร็วขึ้น หรือการเปลี่ยนรูปแบบของเกม เพื่อให้เกมไม่น่าเบื่อและกระตุ้นให้ผู้เล่นเล่นต่อไป
- เปลี่ยนการเคลื่อนไหวของตัวละคร หรือเพิ่มความเร็วของอุปสรรคในแต่ละระดับ
- เพิ่มตัวละครใหม่ที่ผู้เล่นต้องหลีกเลี่ยง หรือเพิ่มภารกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น
ตัวอย่าง:
ในระดับที่ 2 ให้ตัวละครเคลื่อนไหวเร็วขึ้น และเพิ่มจำนวนอุปสรรคที่ผู้เล่นต้องหลบ
5. การตรวจสอบการสิ้นสุดของเกม
เมื่อผู้เล่นผ่านระดับสุดท้ายของเกมแล้ว นักเรียนสามารถใช้บล็อก "แสดงข้อความ" หรือ "เล่นเสียง" เพื่อแสดงข้อความว่ายินดีด้วยที่ผ่านเกมสำเร็จ หรือสามารถทำให้เกมรีสตาร์ทเพื่อเริ่มเล่นใหม่จากระดับแรกได้
- ใช้บล็อก "แสดงข้อความ [ยินดีด้วย]" เมื่อผู้เล่นผ่านระดับสุดท้าย
- ใช้บล็อก "หยุดทั้งหมด" เพื่อหยุดการทำงานของโปรแกรมเมื่อเกมจบ
ตัวอย่าง:
เมื่อผู้เล่นผ่านระดับที่ 3 ให้แสดงข้อความ "ยินดีด้วย คุณผ่านเกมแล้ว!" แล้วหยุดเกม
6. สรุปบทเรียน
- นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการสร้างเกมที่มีหลายระดับ โดยใช้ฉากและเงื่อนไขในการเปลี่ยนระดับ
- นักเรียนสามารถเพิ่มความท้าทายในแต่ละระดับของเกม เพื่อทำให้เกมสนุกและท้าทายมากขึ้น
กิจกรรมเสริม
ให้นักเรียนสร้างเกมที่มีอย่างน้อย 3 ระดับ โดยเพิ่มความท้าทายในแต่ละระดับ เช่น เพิ่มอุปสรรคและเปลี่ยนฉากเมื่อผ่านระดับ จากนั้นลองแลกเปลี่ยนเกมกับเพื่อนๆ เพื่อทดสอบและดูผลลัพธ์