5: Reflection and Self-regulation

บทนี้จะเน้นความสำคัญของการสะท้อนความคิดและการควบคุมตนเองในการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา การสะท้อนความคิดของตัวเองช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ พิจารณาข้อผิดพลาด และปรับปรุงวิธีการคิดและการทำงานของตนเองให้ดีขึ้น การควบคุมตนเองยังช่วยเสริมสร้างวินัยในการคิดและการตัดสินใจอย่างมีสติ

5.1 การสะท้อนความคิดของตัวเอง

การสะท้อนความคิดของตัวเอง (Self-reflection) เป็นกระบวนการที่นักเรียนใช้พิจารณาประสบการณ์ของตนเอง วิเคราะห์การตัดสินใจและการกระทำที่ผ่านมา เพื่อเรียนรู้และพัฒนาตนเอง การสะท้อนความคิดช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าใจถึงข้อผิดพลาดและสิ่งที่สามารถปรับปรุงได้ รวมถึงทำให้พวกเขาเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนในการคิดของตนเอง

1. การทบทวนประสบการณ์ที่ผ่านมา (Reviewing Past Experiences)

  • การสะท้อนความคิดเริ่มจากการทบทวนประสบการณ์ที่ผ่านมา นักเรียนควรถามตัวเองว่าในการตัดสินใจหรือแก้ปัญหาครั้งที่ผ่านมานั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง อะไรเป็นไปตามที่คาดหวัง และอะไรที่ไม่เป็นไปตามแผน การทบทวนนี้จะช่วยให้นักเรียนเห็นภาพรวมของการกระทำและผลลัพธ์
  • ตัวอย่าง: เมื่อนักเรียนทำโครงการวิจัยเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาควรถามตัวเองว่าขั้นตอนใดที่ประสบความสำเร็จและขั้นตอนใดที่มีปัญหา

2. การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและความสำเร็จ (Analyzing Mistakes and Successes)

  • นักเรียนควรวิเคราะห์ว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไร และสิ่งที่ประสบความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและเสริมสร้างความสำเร็จให้มากขึ้นในอนาคต
  • ตัวอย่าง: หากนักเรียนพบว่าการสื่อสารในทีมเป็นปัญหาในการทำงานกลุ่ม พวกเขาควรวิเคราะห์ว่าสาเหตุของปัญหานั้นคืออะไรและควรปรับปรุงอย่างไรในการทำงานครั้งต่อไป

3. การตั้งคำถามกับตัวเอง (Asking Self-reflective Questions)

  • การตั้งคำถามกับตัวเองเป็นวิธีที่ดีในการสะท้อนความคิด เช่น “ฉันสามารถทำสิ่งนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร?” หรือ “มีอะไรที่ฉันควรพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงในวิธีการคิดของฉันบ้าง?” คำถามเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
  • ตัวอย่าง: หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ นักเรียนอาจถามตัวเองว่า "ฉันจะสามารถปรับปรุงการวางแผนและการจัดการเวลาได้อย่างไรในโครงการถัดไป?"

4. การรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น (Receiving Feedback from Others)

  • นอกจากการสะท้อนความคิดของตัวเองแล้ว การรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นก็มีความสำคัญ นักเรียนควรเปิดใจรับฟังคำติชมและใช้ความคิดเห็นเหล่านั้นในการปรับปรุงการทำงานและการคิดของตนเอง
  • ตัวอย่าง: นักเรียนอาจขอคำแนะนำจากครูหรือเพื่อนร่วมทีมเพื่อเรียนรู้มุมมองใหม่ ๆ และนำมาปรับปรุงตนเอง

5. การสร้างแผนการพัฒนาตนเอง (Creating a Personal Development Plan)

  • หลังจากทำการสะท้อนความคิดแล้ว นักเรียนควรสร้างแผนการพัฒนาตนเองเพื่อปรับปรุงวิธีการคิดและการทำงานของตนในอนาคต การสร้างแผนช่วยให้การพัฒนาตนเองมีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน
  • ตัวอย่าง: นักเรียนอาจตั้งเป้าหมายว่าในโครงการถัดไปจะพัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่นให้ดียิ่งขึ้น

คำถามกระตุ้นความคิด

คำถามที่ 1: นักเรียนคิดว่าการสะท้อนความคิดของตัวเองช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงข้อผิดพลาดและความสำเร็จได้อย่างไร?
คำถามที่ 2: การรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นมีประโยชน์อย่างไรในการพัฒนาตนเอง?

เพิ่มเติม:

ให้นักเรียนสะท้อนความคิดของตัวเองหลังจากทำโครงการเสร็จสิ้น โดยใช้คำถามสะท้อนความคิด เช่น “ฉันทำอะไรได้ดีบ้าง?” และ “ฉันสามารถปรับปรุงวิธีการทำงานของฉันได้อย่างไร?”


แนวทางของคำถามที่ 1:

การสะท้อนความคิดของตัวเองช่วยให้นักเรียนสามารถมองย้อนกลับไปยังการตัดสินใจและการกระทำที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาสามารถวิเคราะห์เหตุผลเบื้องหลังข้อผิดพลาดและสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ การสะท้อนนี้ช่วยให้นักเรียนเห็นภาพชัดเจนว่าอะไรที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาตนเองและปรับปรุงกระบวนการคิดและการทำงานในอนาคต

แนวทางของคำถามที่ 2:

การรับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่นช่วยให้นักเรียนได้รับมุมมองที่แตกต่างจากการสะท้อนความคิดของตัวเองเพียงอย่างเดียว ความคิดเห็นจากผู้อื่นอาจช่วยชี้ให้เห็นถึงจุดที่พวกเขาอาจไม่ทันสังเกตเห็นหรือไม่ได้นึกถึง การรับฟังคำติชมอย่างเปิดใจจึงช่วยให้นักเรียนเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาตนเองในทางที่ดีขึ้น