หน่วยที่ 2: พันธุกรรมและการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
2.2 การวิเคราะห์ข้อมูลประชากรทางพันธุกรรม
ความหลากหลายทางพันธุกรรมและการคำนวณความถี่อัลลีล (ใช้สมการ Hardy-Weinberg)
ความหลากหลายทางพันธุกรรม (Genetic Diversity) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการศึกษาประชากรทางพันธุกรรม เนื่องจากความหลากหลายของยีนในประชากรสามารถบ่งชี้ถึงศักยภาพในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและความสามารถในการอยู่รอดของสายพันธุ์
เพื่อวิเคราะห์ความหลากหลายทางพันธุกรรมในประชากร เราสามารถใช้ สมการ Hardy-Weinberg ซึ่งเป็นสมการที่ใช้ในการคำนวณความถี่ของอัลลีลในประชากรที่สมดุล โดยสมการนี้มีสมมติฐานว่าประชากรต้องมีขนาดใหญ่ ไม่มีการกลายพันธุ์ การสุ่มเลือกคู่ครอง การเลือกตามธรรมชาติ หรือการย้ายถิ่นของประชากร
สมการ Hardy-Weinberg:
สมการที่ใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความถี่ของอัลลีลในประชากรมีดังนี้:
โดยที่:
= ความถี่ของจีโนไทป์ที่มีลักษณะเด่นแบบโฮโมไซกัส (Homozygous Dominant) = ความถี่ของจีโนไทป์ที่มีลักษณะเด่นและด้อยแบบเฮเทอโรไซกัส (Heterozygous) = ความถี่ของจีโนไทป์ที่มีลักษณะด้อยแบบโฮโมไซกัส (Homozygous Recessive)
นอกจากนี้
ตัวอย่าง:
สมมติว่าในประชากรหนึ่ง มี 16% ของประชากรที่มีลักษณะด้อยแบบโฮโมไซกัส (aa) เราสามารถคำนวณความถี่ของอัลลีล
จากสมการ
จากนั้น เราสามารถคำนวณความถี่ของจีโนไทป์อื่น ๆ ได้โดยใช้สมการ Hardy-Weinberg:
หรือ 36% ของประชากรมีลักษณะเด่นแบบโฮโมไซกัส (AA) หรือ 48% ของประชากรมีลักษณะเด่นและด้อยแบบเฮเทอโรไซกัส (Aa)
ดังนั้น ประชากรนี้จะประกอบด้วย 36% AA, 48% Aa และ 16% aa
การเรียนรู้เชิง STEM:
นักเรียนสามารถใช้สมการ Hardy-Weinberg ในการคำนวณความถี่ของอัลลีลและจีโนไทป์ในประชากรจำลอง เพื่อทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของความหลากหลายทางพันธุกรรมภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ เช่น การกลายพันธุ์หรือการย้ายถิ่นของประชากร การทดลองนี้จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนถึงผลกระทบของปัจจัยต่าง ๆ ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงในประชากรทางพันธุกรรม