การสร้างปืนจรวดจากกระดาษและหลอดดูดน้ำ

STEM Activities Guidebook - การสร้างปืนจรวดจากกระดาษและหลอดดูดน้ำ

STEM Activities Guidebook - ระดับประถมศึกษา

เรื่อง: การสร้างปืนจรวดจากกระดาษและหลอดดูดน้ำ (Straw Rocket)

เหมาะสำหรับเด็กวัย: ประถมศึกษา (6-11 ปี)
ระยะเวลา: 30-45 นาที
หัวข้อ: การออกแบบจรวดและแรงดันลม (Rocket Design and Air Pressure)


วัตถุประสงค์ของกิจกรรม

กิจกรรมนี้จะช่วยให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการของแรงดันลมและการเคลื่อนที่ของจรวด โดยเด็กจะได้ออกแบบและสร้างจรวดจากกระดาษและหลอดดูดน้ำ และทดสอบการปล่อยจรวดด้วยแรงดันลม


วัสดุที่ต้องใช้
  • กระดาษ (ขนาด A4)
  • หลอดดูดน้ำขนาดเล็กและใหญ่
  • เทปกาวหรือกาว
  • กรรไกร
  • สีเมจิกหรือดินสอสี (สำหรับตกแต่งจรวด)

ขั้นตอนการทำกิจกรรม
  1. สร้างจรวดจากกระดาษ

    • ตัดกระดาษให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก ๆ (เช่น 5x8 ซม.) จากนั้นม้วนกระดาษให้เป็นท่อเล็ก ๆ ที่สามารถสวมลงบนหลอดดูดน้ำขนาดเล็กได้
    • ใช้เทปกาวติดปลายท่อกระดาษให้มั่นคงเพื่อไม่ให้คลายออก จากนั้นใช้กรรไกรตัดปลายท่อกระดาษให้เรียบเสมอกัน
  2. ตกแต่งจรวด

    • ให้เด็กใช้สีเมจิกหรือดินสอสีตกแต่งจรวดตามจินตนาการ เช่น วาดลวดลายหรือติดปีกเล็ก ๆ ที่ด้านหลังของจรวดเพื่อความสวยงามและเพิ่มความเสถียรในการบิน
  3. เตรียมปืนจรวด

    • นำหลอดดูดน้ำขนาดใหญ่ตัดให้สั้นลงประมาณ 1/3 จากนั้นนำหลอดขนาดเล็กที่มีจรวดกระดาษเสียบลงไปในหลอดขนาดใหญ่ ทำให้หลอดเล็กสามารถเลื่อนไปมาในหลอดใหญ่ได้อย่างสะดวก
    • จับปลายหลอดใหญ่ให้แน่นและเป่าลมเข้าไปในหลอดเล็ก เพื่อให้แรงดันลมดันจรวดออกมา
  4. ทดสอบการปล่อยจรวด

    • นำจรวดกระดาษและปืนจรวดที่สร้างเสร็จแล้วออกไปยังที่โล่งแจ้ง จากนั้นให้เด็กลองปล่อยจรวดโดยใช้แรงดันลม เป่าลมเข้าไปในหลอดใหญ่แล้วสังเกตดูว่าจรวดบินไปไกลแค่ไหน
    • ลองทดสอบจรวดหลาย ๆ แบบโดยปรับแต่งขนาดหรือรูปทรงของจรวดเพื่อดูว่ามีผลอย่างไรต่อระยะทางการบิน

การจดบันทึกและเขียนรายงาน
  1. ระหว่างทำกิจกรรม

    • ให้เด็กจดบันทึกลักษณะของจรวดแต่ละแบบ เช่น ขนาด ความยาว และรูปทรงปีก แล้วสังเกตว่าจรวดแบบไหนบินได้ไกลที่สุด
    • ให้เด็กบันทึกผลการทดสอบแต่ละครั้ง เช่น ระยะทางที่จรวดบินไปได้และสังเกตว่าสิ่งใดที่มีผลต่อการบินของจรวด
  2. หลังทำกิจกรรม

    • สอนให้เด็กเขียนรายงานสรุปผลการทดลอง โดยอธิบายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการออกแบบจรวดและผลลัพธ์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของจรวด
    • รายงานควรประกอบด้วยหัวข้อ:
      • วัสดุและวิธีการ: อธิบายสิ่งที่ใช้และวิธีการทำ
      • ผลลัพธ์: บันทึกผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลอง เช่น "จรวดที่มีปีกบินได้ไกลกว่าจรวดที่ไม่มีปีก"
      • ข้อสังเกตและข้อสรุป: อธิบายสิ่งที่เด็กสังเกตและบทเรียนที่ได้รับ เช่น "การใช้ปีกช่วยให้จรวดบินได้เสถียรขึ้น"
  3. แบบฟอร์มบันทึกผลการทดลอง

    • สร้างแบบฟอร์มง่าย ๆ ให้เด็กใช้บันทึกผล เช่น ตารางสำหรับจดบันทึกขนาดของจรวดและระยะทางที่จรวดบินไปได้

คำถามเพื่อการสะท้อนคิด
  1. ก่อนเริ่มกิจกรรม: "ลูกคิดว่าจรวดที่มีลักษณะอย่างไรจะบินได้ไกลที่สุด?"
  2. ระหว่างทำกิจกรรม: "ทำไมจรวดบางแบบถึงบินได้ไกลกว่าจรวดแบบอื่น ๆ?"
  3. หลังทำกิจกรรม: "ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการออกแบบจรวดและแรงดันลม?"

ข้อมูลทางวิชาการ
  1. หลักการพื้นฐาน
    การปล่อยจรวดใช้หลักการของแรงดันลม เมื่อเป่าลมเข้าไปในหลอดดูดน้ำ แรงดันลมจะดันจรวดออกไปด้วยความเร็ว แรงดันลมยิ่งมาก จรวดยิ่งบินได้ไกล

  2. แรงและการเคลื่อนที่ (Force and Motion)
    การออกแบบจรวดและการปรับแต่งรูปทรงมีผลต่อการเคลื่อนที่ของจรวด การเพิ่มปีกหรือปรับมุมปีกสามารถช่วยเพิ่มความเสถียรและระยะทางในการบินของจรวด

  3. การเชื่อมโยงกับการบินและอวกาศ
    หลักการที่ใช้ในการสร้างจรวดนี้สามารถนำไปเชื่อมโยงกับการออกแบบจรวดจริงที่ใช้ในการส่งยานอวกาศ การเข้าใจแรงดันและการออกแบบอากาศยานเป็นพื้นฐานของวิศวกรรมอวกาศ


ทักษะที่จะได้รับการพัฒนา
  1. การคิดเชิงวิศวกรรม: เด็กจะได้ฝึกการออกแบบจรวดที่สามารถบินได้ไกลและเสถียร
  2. ทักษะการทดลองและการวิเคราะห์: เด็กจะได้ฝึกการทดลองและวิเคราะห์ผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงรูปทรงของจรวด
  3. การจดบันทึกและสรุปผล: เด็กจะได้ฝึกทักษะการจดบันทึกผลการทดลองและสรุปผลจากการเปรียบเทียบจรวดแต่ละแบบ

เคล็ดลับพิเศษสำหรับพ่อแม่
  • ปรับความยากง่าย: สำหรับเด็กเล็ก เริ่มจากจรวดที่มีรูปทรงง่าย ๆ และเพิ่มความซับซ้อนเมื่อพวกเขาคุ้นเคยกับกระบวนการ
  • ทำให้สนุก: จัดการแข่งขันว่าใครสามารถออกแบบจรวดที่บินได้ไกลที่สุด
  • สร้างแรงจูงใจ: ชมเชยลูกเมื่อพวกเขาปรับปรุงการออกแบบและเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากการทดลอง

Free Joomla templates by Ltheme