การทดลองระบบน้ำหมุนเวียน

STEM Activities Guidebook - การทดลองระบบน้ำหมุนเวียน

STEM Activities Guidebook - ระดับประถมศึกษา

เรื่อง: การทดลองระบบน้ำหมุนเวียน (Water Cycle in a Bag)

เหมาะสำหรับเด็กวัย: ประถมศึกษา (6-11 ปี)
ระยะเวลา: 30-45 นาที
หัวข้อ: ระบบน้ำหมุนเวียนและการเปลี่ยนสถานะของน้ำ (Water Cycle and Phase Changes)


วัตถุประสงค์ของกิจกรรม

กิจกรรมนี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับวงจรน้ำ (Water Cycle) และการเปลี่ยนสถานะของน้ำจากของเหลวเป็นไอน้ำและกลับมาเป็นน้ำ โดยใช้ถุงพลาสติกใสเพื่อจำลองระบบน้ำหมุนเวียน


วัสดุที่ต้องใช้
  • ถุงซิปล็อกใสขนาดเล็ก
  • น้ำ
  • สีผสมอาหาร (ไม่บังคับ)
  • เทปกาว
  • ปากกาเขียนบนถุงพลาสติก

ขั้นตอนการทำกิจกรรม
  1. เตรียมถุงน้ำหมุนเวียน

    • เติมน้ำประมาณ 1/4 ของถุงซิปล็อกใส หากต้องการเพิ่มความน่าสนใจ สามารถเติมสีผสมอาหารลงในน้ำเพื่อให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของน้ำได้ชัดเจนขึ้น
    • ปิดถุงให้สนิท และใช้ปากกาเขียนวงจรน้ำ เช่น วาดรูปก้อนเมฆ การระเหย การควบแน่น และการตกลงมาเป็นฝน บนถุงพลาสติก
  2. ติดถุงน้ำหมุนเวียนที่หน้าต่าง

    • ใช้เทปกาวติดถุงซิปล็อกที่หน้าต่างที่มีแสงแดดส่องถึง แล้วสังเกตว่าการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อถุงได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์
  3. สังเกตการเปลี่ยนสถานะของน้ำ

    • สังเกตดูว่าเมื่อน้ำในถุงระเหย มันจะเปลี่ยนสถานะเป็นไอน้ำและก่อตัวเป็นหยดน้ำที่ด้านบนของถุง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระบวนการการควบแน่น เมื่อหยดน้ำสะสมมากพอ จะตกลงมาเป็นน้ำด้านล่างของถุง ซึ่งเป็นการจำลองการตกของฝนในระบบน้ำหมุนเวียน

การจดบันทึกและเขียนรายงาน
  1. ระหว่างทำกิจกรรม

    • ให้เด็กจดบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอน เช่น เวลาที่น้ำเริ่มระเหยและควบแน่นเป็นหยดน้ำบนถุง
    • ให้เด็กสังเกตและบันทึกว่าแสงอาทิตย์มีผลอย่างไรต่อกระบวนการนี้ เช่น ถ้าวางถุงในที่ไม่มีแสงแดด จะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่างจากที่มีแสงแดดหรือไม่
  2. หลังทำกิจกรรม

    • สอนให้เด็กเขียนรายงานสรุปผลการทดลอง โดยอธิบายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากวงจรน้ำนี้ เช่น การระเหย การควบแน่น และการตกของน้ำ
    • รายงานควรประกอบด้วยหัวข้อ:
      • วัสดุและวิธีการ (Materials and Method): อธิบายสิ่งที่ใช้และวิธีการทำถุงน้ำหมุนเวียน
      • ผลลัพธ์ (Results): บันทึกผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลอง เช่น "น้ำในถุงเริ่มระเหยหลังจากโดนแสงอาทิตย์ประมาณ 30 นาที"
      • ข้อสังเกตและข้อสรุป (Observations and Conclusion): อธิบายสิ่งที่เด็กสังเกตและบทเรียนที่ได้รับ เช่น "แสงแดดช่วยเร่งกระบวนการระเหยของน้ำ"
  3. แบบฟอร์มบันทึกผลการทดลอง

    • สร้างแบบฟอร์มง่าย ๆ ให้เด็กใช้บันทึกผล เช่น ตารางสำหรับจดเวลาที่เริ่มระเหยและเวลาที่หยดน้ำเริ่มก่อตัวบนถุง

คำถามเพื่อการสะท้อนคิด
  1. ก่อนเริ่มกิจกรรม: "ลูกคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับน้ำในถุงเมื่อโดนแสงแดด?"
  2. ระหว่างทำกิจกรรม: "ลูกสังเกตเห็นอะไรเกี่ยวกับการระเหยและการควบแน่นของน้ำในถุง?"
  3. หลังทำกิจกรรม: "วันนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะของน้ำและวงจรน้ำ?"

ข้อมูลทางวิชาการ
  1. กระบวนการระเหยและควบแน่น (Evaporation and Condensation)
    น้ำจะระเหยเป็นไอน้ำเมื่อได้รับความร้อนจากแสงแดด และจะควบแน่นกลับมาเป็นหยดน้ำเมื่อไอน้ำเย็นลงและสัมผัสกับพื้นผิวที่เย็นกว่า

  2. วงจรน้ำ (Water Cycle)
    กระบวนการระเหยและควบแน่นเป็นส่วนสำคัญของวงจรน้ำ ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในบรรยากาศ โดยน้ำจากทะเลสาบหรือแม่น้ำจะระเหยกลายเป็นไอและก่อตัวเป็นเมฆ จากนั้นจะตกลงมาเป็นฝน

  3. การเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Science)
    การทดลองนี้ช่วยให้เด็กเข้าใจเกี่ยวกับวงจรน้ำ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในธรรมชาติและมีผลต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม


ทักษะที่จะได้รับการพัฒนา
  1. การคิดเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Thinking): เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการสังเกตผลลัพธ์จากการทดลอง
  2. ทักษะการสังเกตและบันทึก (Observation and Recording): เด็กจะได้ฝึกการสังเกตและจดบันทึกกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวงจรน้ำ
  3. ทักษะการสรุปผล (Conclusion Drawing): เด็กจะได้ฝึกการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลจากการทดลอง

เคล็ดลับพิเศษสำหรับพ่อแม่
  • ปรับความยากง่าย: สำหรับเด็กเล็ก ให้เริ่มจากการสังเกตง่าย ๆ และถ้าลูกโตกว่านี้สามารถท้าทายให้วิเคราะห์กระบวนการในวงจรน้ำอย่างละเอียด
  • ทำให้สนุก: จัดการแข่งขันว่าใครสามารถสร้างวงจรน้ำในถุงที่ทำให้เกิดหยดน้ำได้เร็วที่สุด
  • สร้างแรงจูงใจ: ชมเชยลูกเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นกระบวนการต่าง ๆ ในการเปลี่ยนแปลงของน้ำ และเมื่อสามารถสรุปผลจากการทดลองได้

Free Joomla templates by Ltheme