สร้างหอคอยจากหลอดดูดน้ำ

STEM Activities Guidebook - สร้างหอคอยจากหลอดดูดน้ำ

STEM Activities Guidebook - ระดับประถมศึกษา

เรื่อง: สร้างหอคอยจากหลอดดูดน้ำ (Straw Tower Challenge)

เหมาะสำหรับเด็กวัย: ประถมศึกษา (6-11 ปี)
ระยะเวลา: 30-45 นาที
หัวข้อ: โครงสร้างและความเสถียร (Structures and Stability)


วัตถุประสงค์ของกิจกรรม

กิจกรรมนี้จะฝึกทักษะด้านการออกแบบและการแก้ปัญหา โดยให้เด็กได้สร้างหอคอยจากหลอดดูดน้ำเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความเสถียรของโครงสร้างและการกระจายน้ำหนัก


วัสดุที่ต้องใช้
  • หลอดดูดน้ำ 20-30 หลอด
  • เทปกาว
  • กรรไกร
  • หนังสือหรือวัตถุที่มีน้ำหนัก (สำหรับทดสอบความแข็งแรง)

ขั้นตอนการทำกิจกรรม
  1. เตรียมโครงสร้างหอคอย

    • ให้ลูกนำหลอดดูดน้ำมาตัดและเชื่อมต่อกันโดยใช้เทปกาว เพื่อสร้างเป็นหอคอย พ่อแม่สามารถแนะนำให้ลูกพับหรือบิดหลอดให้เกิดรูปทรงสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมเพื่อเพิ่มความเสถียรของโครงสร้าง
    • อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า การสร้างโครงสร้างที่มีฐานกว้างกว่าจะทำให้หอคอยมีความเสถียรและแข็งแรงกว่า
  2. เชื่อมต่อหลอดเพื่อสร้างความสูง

    • ลูกสามารถสร้างหอคอยให้สูงขึ้นโดยเชื่อมต่อหลอดดูดน้ำหลายชั้น โดยแต่ละชั้นควรจะมีรูปทรงที่เหมาะสมเพื่อรองรับน้ำหนักของชั้นที่อยู่ด้านบน
    • ถ้าลูกเจอปัญหาที่หอคอยไม่มั่นคง ให้ลองปรับเปลี่ยนการเชื่อมต่อหรือเพิ่มฐานให้กว้างขึ้น
  3. ทดสอบความแข็งแรง

    • วางหนังสือหรือวัตถุที่มีน้ำหนักลงบนยอดหอคอยทีละเล่ม เริ่มจากน้ำหนักเบา ๆ แล้วค่อยเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ
    • สังเกตว่าโครงสร้างสามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยเพียงใด และให้ลูกคิดวิธีปรับปรุงหอคอยให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น

การจดบันทึกและเขียนรายงาน
  1. ระหว่างทำกิจกรรม

    • ให้เด็กจดบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนหลอดที่ใช้ ความสูงของหอคอย และจำนวนหนังสือที่วางลงบนหอคอยก่อนที่มันจะพังลง
    • ให้เด็กสังเกตว่าโครงสร้างแบบใดมีความเสถียรมากที่สุด และจดบันทึกเกี่ยวกับรูปทรงและลักษณะของฐานหอคอย
  2. หลังทำกิจกรรม

    • สอนให้เด็กเขียนรายงานสรุปผลการทดลอง โดยอธิบายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมนี้ เช่น "การใช้ฐานกว้างทำให้หอคอยสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น"
    • รายงานควรประกอบด้วยหัวข้อ:
      • วัสดุและวิธีการ (Materials and Method): อธิบายสิ่งที่ใช้และวิธีการสร้างหอคอย
      • ผลลัพธ์ (Results): บันทึกผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลอง เช่น "หอคอยรับน้ำหนักหนังสือได้ 5 เล่มก่อนจะพัง"
      • ข้อสังเกตและข้อสรุป (Observations and Conclusion): อธิบายสิ่งที่เด็กสังเกตและบทเรียนที่ได้รับ เช่น "หอคอยที่มีฐานกว้างกว่าจะรับน้ำหนักได้ดีกว่า"
  3. แบบฟอร์มบันทึกผลการทดลอง

    • สร้างแบบฟอร์มง่าย ๆ ให้เด็กใช้บันทึกผล เช่น ตารางสำหรับจดจำนวนหนังสือ ความสูงของหอคอย และความแข็งแรงของโครงสร้างในแต่ละครั้ง

คำถามเพื่อการสะท้อนคิด
  1. ก่อนเริ่มกิจกรรม: "ลูกคิดว่าหอคอยแบบไหนจะรับน้ำหนักได้ดีที่สุด? ควรมีฐานกว้างหรือแคบ?"
  2. ระหว่างทำกิจกรรม: "ตอนนี้หอคอยดูมั่นคงดีไหม? ถ้าไม่มั่นคงเราควรปรับเปลี่ยนอะไรดี?"
  3. หลังทำกิจกรรม: "วันนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการสร้างโครงสร้าง? ลูกคิดว่าทำยังไงถึงจะทำให้หอคอยแข็งแรงกว่านี้?"

ข้อมูลทางวิชาการ
  1. หลักการพื้นฐาน
    การสร้างโครงสร้างที่มีฐานกว้างและมั่นคงจะช่วยให้โครงสร้างรับน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น และการกระจายน้ำหนักที่สม่ำเสมอจะช่วยให้โครงสร้างมีความเสถียรมากขึ้น

  2. แนวคิดเกี่ยวกับแรง (Forces)
    โครงสร้างที่มีฐานกว้างจะสามารถกระจายน้ำหนักลงไปยังพื้นผิวได้ดีขึ้น ทำให้โครงสร้างสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้นโดยไม่ล้ม

  3. การเชื่อมโยงกับวิศวกรรม
    วิศวกรใช้หลักการเดียวกันในการออกแบบตึกสูง โดยสร้างฐานที่กว้างเพื่อให้โครงสร้างมั่นคง และจัดการการกระจายน้ำหนักเพื่อให้ตึกสามารถรับแรงต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย


ทักษะที่จะได้รับการพัฒนา
  1. การคิดเชิงวิศวกรรม (Engineering Thinking): เด็กจะได้เรียนรู้วิธีการออกแบบและสร้างโครงสร้างที่มีความเสถียร
  2. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving): เด็กจะได้ฝึกหาวิธีปรับปรุงโครงสร้างเมื่อเจอปัญหา
  3. การทำงานร่วมกัน (Collaboration): กิจกรรมนี้ส่งเสริมการสื่อสารและการทำงานร่วมกันระหว่างพ่อแม่และลูก

เคล็ดลับพิเศษสำหรับพ่อแม่
  • ปรับความยากง่าย: ถ้าลูกยังเล็ก ลองให้พวกเขาเริ่มจากการสร้างหอคอยที่เตี้ย ๆ แล้วค่อยเพิ่มความสูงเมื่อพวกเขาคุ้นเคยกับการเชื่อมต่อหลอด
  • ทำให้สนุก: ลองจัดการแข่งขันกันในครอบครัวว่าใครสามารถสร้างหอคอยที่สูงที่สุดโดยที่ยังคงเสถียรอยู่ได้
  • สร้างแรงจูงใจ: ชมเชยลูกเมื่อพวกเขาเจอวิธีใหม่ ๆ ในการทำให้หอคอยแข็งแรงขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้พวกเขา

Free Joomla templates by Ltheme